“ทองคำ” ถือเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการลงทุนตลอดกาล ซึ่งไม่เพียงแต่จะนำไปเป็นมรดกให้กับลูกหลานในวันข้างหน้าได้เท่านั้น แต่ทองคำยังสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดเพื่อสร้างสภาพคล่องทางการเงินได้ในทุกช่วงเวลา
อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลาที่ต้องนำทองคำที่มีอยู่ไปเสริมสภาพคล่อง เจ้าของทองคำส่วนใหญ่มักไม่แน่ใจว่า ควรจะนำทองที่มีอยู่ไปประเมินราคาจำนำทอง หรือ ขายให้กับร้านรับซื้อทองดี แล้วระหว่างจำนำกับขายทอง วิธีไหนจะได้ราคาที่ใช่และตอบโจทย์ความต้องการได้ดีที่สุด มาดูไปพร้อมกันเลย!
เช่นเดียวกับการลงทุนทั่วไป ทองคำเองก็เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่สามารถซื้อขายเพื่อสร้างผลตอบแทนได้เช่นกัน ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจซื้อขายทองคำนั้น ขอแนะนำให้พิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้
การซื้อขายทองในแต่ละช่วงเวลานั้นจะให้ผลตอบแทนและมีกำไรที่แตกต่างกันจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ค่าเงิน อัตราดอกเบี้ย นโยบายรัฐบาล ไปจนถึงความต้องการในตลาด ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าควรจำนำทองหรือขายดี สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาให้ดี คือ ช่วงเวลาในการขายเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดนั่นเอง
ทองคำในปัจจุบันจะมีความบริสุทธิ์อยู่ 2 แบบ คือ แบบ 96.5% ซึ่งเป็นทองไทย และแบบ 99.99% ซึ่งเป็นทองคำมาตรฐานโลก
โดยทองคำทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีหลักในการซื้อขายที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ทองคำ 96.5% จะสามารถซื้อขายได้ตามร้านทองที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือทั่วไป ในขณะที่ทองคำความบริสุทธิ์ 99.99% จะซื้อขายในหน่วยกิโลกรัมตามราคาโลก โดยทองคำ 99.99% จำนวน 1 กิโลกรัมมีมูลค่าเท่ากับ 65.6 บาททองไทย อีกทั้งยังต้องซื้อขายในแหล่งรับซื้อที่เปิดให้บริการซื้อขายทองคำ 99.99% เท่านั้น
การจะตัดสินใจได้ว่าระหว่างจำนำกับขายทองควรเลือกวิธีไหนยังต้องเข้าใจถึงหลักของราคารับซื้อทองที่แตกต่างกันไปตามประเภทของทองคำเช่นกัน โดยตามประกาศจากสำนักงานคณะกรรมการกลางที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ระบุรายละเอียดของการซื้อขายทองคำเอาไว้ ดังนี้
1. ราคารับซื้อทองรูปพรรณ หนัก 1 บาท มีหลักในการพิจารณาดังนี้
- ราคารับซื้อคืน = ราคารับซื้อคืนทองแท่ง 1 บาท - ค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายจากการหลอมไม่เกิน 5% ของราคาซื้อคืนทองแท่ง
2. ราคารับซื้อคืนทองแท่ง หนัก 1 บาท มีหลักในการพิจารณาดังนี้
- ราคารับซื้อคืน = ราคาขายทองคำแท่ง 1 บาท - 100 บาท
จะเห็นได้ว่า การขายทองคำคืนให้กับแหล่งรับซื้ออย่างร้านทอง รวมไปถึงผู้รับซื้อต่าง ๆ มีโอกาสที่จะได้รับจำนวนเงินที่น้อยกว่าราคาที่ซื้อทองคำมา ดังนั้น หากอยากได้ราคาทองคำที่ใกล้เคียงกับราคาซื้อ อย่าลืมเลือกช่วงเวลาในการขายให้ดี
การจำนำทองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งก่อนที่จะนำทองไปประเมินราคาจำนำทองทุกครั้ง อย่าลืมพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
เจ้าของทองคำสามารถนำทองคำของตนเองไปจำนำได้ที่ร้านทอง โรงรับจำนำรัฐ และโรงรับจำนำเอกชน ซึ่งแต่ละแห่งจะมีเงื่อนไขการใช้บริการที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เช่น
- หากเลือกใช้บริการรับจำนำกับร้านทอง
เจ้าของทองคำจะต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือของร้านทองให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะนอกจากจะเสี่ยงโดนกดราคารับจำนำและมีการคิดดอกเบี้ยที่ไม่ถูกต้องแล้ว ร้านทองที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่มีความน่าเชื่อถืออาจทำทองเสียหาย มีการสับเปลี่ยนทอง ตลอดจนเลื่อนระยะเวลาไถ่ทองจนทำให้โดนยึดทองคำได้
- หากเลือกจำนำทองกับโรงรับจำนำรัฐบาล
นอกจากจะมีดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไปตามเงินต้นแล้ว ราคาประเมินจำนำทองที่ได้รับอาจมีข้อจำกัดหลายด้าน เช่น วงเงินที่จำกัดอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ รวมไปถึงความปลอดภัยในการดูแลทองคำหลังการรับจำนำ เป็นต้น
- หากเลือกจำนำทองกับโรงรับจำนำเอกชน
การจำนำทองคำกับโรงรับจำนำเอกชนมีการคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ 2% สำหรับเงินต้น 2,000 บาทแรก และเมื่อหักเงิน 2,000 บาทออกไปก็จะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่เดือนละ 1.25% อย่างไรก็ดี เจ้าของทองคำก็ควรเลือกใช้บริการโรงรับจำนำเอกชนที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทั้งยังมีการจัดเก็บทองคำที่ถูกต้องและปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหาย การโดนสับเปลี่ยนทอง หรือทองคำหาย
โรงรับจำนำจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยทำการประเมินราคาจำนำทอง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามประเภทของทองคำ สภาพความเสียหาย ความบริสุทธิ์ของทองคำ และราคาทองคำในแต่ละวัน
ตามปกติแล้ว ผู้ประเมินราคารับจำนำจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมอย่างถูกต้องจากสถานธนานุบาล ทำให้สามารถประเมินราคาทองคำได้อย่างถูกต้องตามหลักสากล ดังนั้น เพื่อให้ได้ราคาประเมินทองคำที่ยุติธรรมมากที่สุด อย่าลืมตรวจสอบหลักฐานการอบรม รวมไปถึงคุณวุฒิของผู้ประเมินทุกครั้ง
ก่อนนำทองไปจำนำทุกครั้ง ขอแนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขและวิธีการประเมินทองคำของผู้ให้บริการก่อนทุกครั้ง เนื่องจากโรงรับจำนำและร้านทองบางแห่งจะมีเงื่อนไขรับจำนำทองคำเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจทำการแกะอัญมณีที่ติดกับทองออก เพื่อทำการประเมินราคาจำนำทองคำ และสร้างความเสียหายให้กับทองที่นำมาจำนำได้
นอกจากนี้ เจ้าของทองคำยังควรตรวจสอบวิธีในการจัดเก็บทองคำของแหล่งรับจำนำ ตลอดจนความโปร่งใสในการจัดเก็บทุกครั้ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น รวมไปถึงป้องกันการสับเปลี่ยนทองในระหว่างที่รอไถ่ถอนคืน
การจะตัดสินใจได้ว่าจะนำทองไปจำนำหรือขาย นอกจากปัจจัยทั้งหมดที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว เจ้าของทองคำควรพิจารณาถึงโอกาสการลงทุน รวมถึงการเสริมสภาพคล่องทางการเงินในอนาคตร่วมด้วย
แม้การขายทองคำให้กับแหล่งรับซื้อจะได้เงินก้อนสูงกว่าการประเมินราคาจำนำทอง แต่สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของทองคำก็จะหมดลงทันที และหากในอนาคตต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงินใหม่ก็จะไม่มีทองคำให้ไปจำนำ ขายต่อ หรือลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนอีกแล้ว
ในทางตรงกันข้าม การจำนำทองคำอาจมาพร้อมกับดอกเบี้ยที่ต้องชำระ แต่เจ้าของทองคำยังสามารถเลือกทยอยชำระ หรือชำระค่างวดในวันมารับทองคืนได้ อีกทั้งยังต่ออายุตั๋วจำนำ รวมถึงทำเรื่องขอวงเงินเพิ่ม โดยที่สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของทองคำอยู่ 100% และเมื่อมาไถ่ทองคำคืนก็ยังมีโอกาสลงทุน นำไปเป็นมรดก หรือจะนำมาเสริมสภาพคล่องต่อไปในวันข้างหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน
หวังว่ารายละเอียดของการจำนำทองและขายทองที่นำมาฝากนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้ว่า ควรจะนำทองคำที่มีอยู่ไปเสริมสภาพคล่องด้วยวิธีใด ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะจำนำทองหรือขายดี Easy Money มาพร้อมกับบริการประเมินราคาจำนำทองคำออนไลน์เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนตัดสินใจได้ ไม่ต้องไปที่สาขาก็รู้ราคาประเมินสูงสุดได้ทันที หากพอใจในราคาที่ได้ก็สามารถจำนำทองต่อได้ มั่นใจ! ทองคำปลอดภัย รับทองคำคืนสภาพเดียวกับวันรับจำนำ 100%