การรับจำนำทองรูปพรรณมาพร้อมกับรายละเอียดที่ต้องพิจารณามากมาย ซึ่งนอกจากราคาซื้อในตลาด ความบริสุทธิ์ ลวดลาย และน้ำหนักแล้ว หลาย ๆ ครั้ง เทคนิคการผลิตทองรูปพรรณที่แตกต่างกันอย่าง “ทองคำโปร่ง” และ “ทองคำตัน” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กำหนดราคาขายในตลาด ซึ่งส่งผลต่อราคารับจำนำเช่นเดียวกัน แล้วการผลิตทองคำที่แตกต่างกันนี้จะส่งผลต่อบริการรับจำนำทองรูปพรรณในแง่มุมไหนบ้าง มาไขข้อสงสัยในบทความพร้อมกันเลย!
“ทองคำโปร่ง” คือ หนึ่งในวิธีขึ้นรูปของทองรูปพรรณ โดยช่างทองผู้เชี่ยวชาญจะทำการขึ้นรูปให้เหลือพื้นที่ว่างเอาไว้ภายในมาก ๆ ให้นึกภาพเหมือนเป็นสายยางที่ด้านในมีช่องว่างให้น้ำไหลผ่านได้
การขึ้นรูปทองแบบทองคำโปร่งนี้จะช่วยให้ได้ทองคำที่ดูเส้นใหญ่ แม้จะมีน้ำหนักที่เท่ากับทองคำตัน ที่สำคัญ ทองคำโปร่งยังทำให้พื้นผิวทองคำมีมากขึ้น ส่งผลให้สามารถทำลวดลายได้หลากหลาย และผลิตทองรูปพรรณให้มีลูกเล่นได้มากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ จึงมักพบทองคำโปร่งในทองรูปพรรณประเภทสร้อยคอและสร้อยข้อมือเส้นใหญ่ ๆ ที่มาพร้อมกับลวดลายแปลกใหม่
แม้จะดูมีขนาดที่ใหญ่ แต่ทองคำโปร่งก็มาพร้อมกับพื้นผิวและเนื้อที่บางกว่าทองคำตัน จึงทำให้ทองคำที่ขึ้นรูปแบบโปร่งแตก หัก และบุบได้ง่ายกว่า
นอกจากนี้ ถึงจะซื้อมาในราคาที่เท่ากับทองคำตัน แต่การขายทองคำแบบโปร่งจะได้ราคาที่น้อยกว่า เนื่องจากการขึ้นรูปทองคำโปร่งจะใช้น้ำประสานทองที่มากกว่านั่นเอง
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ หลายคนคงเข้าใจว่า ทองคำตันอาจมีราคารับจำนำที่สูงกว่าทองคำโปร่ง เนื่องจากราคารับซื้อคืนของทองคำแบบโปร่งที่น้อยกว่า แต่ก่อนที่จะสรุปราคารับจำนำทองคำรูปพรรณทั้งสองประเภท ลองมาทำความรู้จักรายละเอียดของทองคำตันให้มากขึ้นกันอีกสักหน่อย
“ทองคำตัน” เป็นวิธีการขึ้นรูปทองรูปพรรณเช่นเดียวกับทองคำโปร่ง แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่ ทองคำตันจะเหลือพื้นที่ว่างที่น้อยกว่าทองคำแบบโปร่ง ทำให้ทองรูปพรรณที่ผลิตด้วยเทคนิคนี้มีเส้นที่เล็กกว่า และมีพื้นผิวที่น้อยลงจนทำให้ผลิตลวดลายได้น้อยกว่าทองคำแบบโปร่ง
อย่างไรก็ดี ด้วยพื้นผิวที่เล็กลงและมีการใช้น้ำประสานทองที่น้อยกว่า ทองคำตันจึงมีราคาขายที่สูงกว่าทองคำโปร่ง อีกทั้งยังมีความทนทานที่สูง ดูแลรักษาง่าย และมีโอกาสบุบ หรือ แตกหักน้อยมาก
เนื่องจากมีวิธีขึ้นรูปที่เหลือพื้นผิวน้อย ทองคำตันจึงมีลวดลายให้เลือกน้อย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นลายดั้งเดิม นอกจากนี้ ทองคำตันยังมีขนาดเล็กกว่าทองคำโปร่งอย่างเห็นได้ชัด ทำให้อาจไม่ตรงกับความชอบของใครหลายคนมากนัก อีกทั้งหากนำไปขายต่อกับร้านที่ไม่น่าเชื่อถือ ยังเสี่ยงต่อการโดนกดราคาเนื่องจากเป็นทองเส้นเล็กอีกด้วย
บริการรับจำนำทองกับโรงรับจำนำที่น่าเชื่อถือ จะมีการพิจารณาราคาจำนำทองคำที่ถูกต้องและได้มาตรฐานตามหลักสากล ซึ่งสำหรับทองรูปพรรณแล้ว ผู้ประเมินราคาจะพิจารณาจากความบริสุทธิ์ของทองรูปพรรณเป็นลำดับแรก จากนั้นจึงพิจารณาถึงน้ำหนักของทองคำ ตลอดจนสภาพทรัพย์ และเอกสารยืนยันต่าง ๆ เช่น การรับประกัน เอกสารจากร้านทอง รวมถึงเครื่องหมายเฉพาะจากร้านทอง และเมื่อพิจารณาทุกองค์ประกอบจึงประเมินราคาทองรูปพรรณออกมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการรับจำนำพิจารณา
จากหลักการประเมินราคาจะเห็นได้ว่า “ทองคำโปร่ง” หรือ “ทองคำตัน” นั้นจะไม่มีผลต่อการประเมินราคา ซึ่งหากทองรูปพรรณที่นำมาประเมินมีสภาพสมบูรณ์และเป็นทองคำแท้ก็จะได้รับการประเมินราคาตามราคาทองในตลาดของวันที่นำมาจำนำ
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว หากต้องการนำทองรูปพรรณมาจำนำกับโรงรับจำนำก็อย่าลืมตรวจสอบราคาทองคำประจำวัน ตลอดจนเช็กสภาพทองรูปพรรณที่มี พร้อมนำเอกสารยืนยันทั้งหมดมาเพื่อใช้บริการรับจำนำด้วย ซึ่งสำหรับใครที่ไม่สะดวกเดินทางมาจำนำในวันที่ราคาทองคำดีที่สุด Easy Money มาพร้อมกับบริการประเมินราคาแบบออนไลน์ที่จะช่วยให้ทุกคนจำนำทองคำเพื่อต่อยอดสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างสะดวก ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่เบอร์ 02-113-1123