การซื้อทองคำเป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย อย่างไรก็ดี มีผู้ลงทุนจำนวนไม่น้อยที่อาจยังไม่ทราบว่า เมื่อตัดสินใจซื้อทองคำไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ นอกจากราคาตามที่ประกาศในแต่ละวันแล้ว ผู้ซื้อยังจำเป็นต้องจ่าย "ค่ากำเหน็จ" ซึ่งคือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ทำให้ราคาทองที่ต้องจ่ายจริงสูงกว่าราคามาตรฐานที่ประกาศไว้
ค่ากำเหน็จ คือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นเมื่อแปรรูปทองคำแท่งเป็นทองรูปพรรณ โดยเป็นค่าตอบแทนสำหรับฝีมือและค่าแรงของช่างทอง ทั้งนี้ ค่ากำเหน็จจะครอบคลุมกระบวนการทำงานหลายขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การหลอม การขึ้นรูป ไปจนถึงการตกแต่งให้ได้ชิ้นงานสวยงามตามความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ ค่ากำเหน็จยังรวมถึงต้นทุนอื่น ๆ เช่น ค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ตลอดจนค่าประกันคุณภาพของชิ้นงานที่ร้านทองมอบให้แก่ลูกค้าด้วย
๐ เข้าใจต้นทุนที่แท้จริง
เนื่องจากราคาทองไม่ได้มีเพียงค่าทองคำเท่านั้น แต่ยังต้องรวมค่ากำเหน็จเข้าไปด้วย ดังนั้น เมื่อเข้าใจองค์ประกอบเรื่องราคาทั้งหมด จะช่วยให้คำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนการซื้อที่รอบคอบยิ่งขึ้น
๐ เปรียบเทียบราคาอย่างชาญฉลาด
แม้ว่าราคาทองต่อบาทของแต่ละร้านอาจเท่ากัน แต่ค่ากำเหน็จที่แตกต่างกันอาจส่งผลให้ราคาขายจริงต่างกันมาก ดังนั้น การมีความรู้เรื่องนี้เอาไว้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้สามารถเลือกซื้อทองรูปพรรณจากร้านที่เสนอราคารวมที่ดีที่สุดได้
๐ ประเมินความคุ้มค่า
เมื่อเข้าใจเรื่องค่ากำเหน็จแล้ว คุณก็จะเลือกซื้อทองได้ตรงตามวัตถุประสงค์ กล่าวคือ หากต้องการลงทุน คุณอาจเลือกทองที่มีค่ากำเหน็จต่ำ แต่หากต้องการเครื่องประดับที่สวยงาม ก็อาจพิจารณาชิ้นงานที่มีค่ากำเหน็จสูงขึ้น
๐ เห็นคุณค่างานช่าง
ในความเป็นจริง ค่ากำเหน็จไม่ใช่เพียงตัวเลขเท่านั้น หากแต่เป็นตัวสะท้อนถึงความประณีตและความซับซ้อนในกระบวนการแปรรูปทองคำให้กลายเป็นเครื่องประดับ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคุณมีความเข้าใจในเรื่องนี้ คุณก็จะประเมินความเหมาะสมของราคาตามระดับคุณภาพงานฝีมือได้อย่างมั่นใจ
หลังจากที่เข้าใจความสำคัญของค่ากำเหน็จแล้ว ต่อไปมาดูกันว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการกำหนดค่ากำเหน็จบ้าง
๐ ความซับซ้อนของดีไซน์
ยิ่งลวดลายประณีตหรือมีการฝังอัญมณี ค่ากำเหน็จก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย อีกทั้งชิ้นงานที่มีความซับซ้อนจะต้องอาศัยทั้งเวลาและฝีมือในการผลิตที่มากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
๐ น้ำหนักของทองคำ
ชิ้นงานที่มีน้ำหนักมากกว่าย่อมต้องใช้ทองคำแท่งในปริมาณที่มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งนอกจากจะเพิ่มต้นทุนวัตถุดิบแล้ว ยังจำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษในการผลิต ด้วยเหตุนี้ ค่ากำเหน็จจึงมักจะสูงขึ้นตามสัดส่วนของน้ำหนักทองคำ
๐ ประเภทของทองคำ
ทองคำที่มีความบริสุทธิ์สูง เช่น ทองคำ 96.5% มักมีค่ากำเหน็จที่แพงกว่า เนื่องจากต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการขึ้นรูปและตกแต่ง อีกทั้งยังต้องระมัดระวังในการผลิตมากกว่าทองคำที่ความบริสุทธิ์ต่ำกว่า
๐ ร้านค้า
แต่ละร้านกำหนดค่ากำเหน็จแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ต้นทุนการผลิต ทำเลที่ตั้ง และนโยบายของร้าน ดังนั้น การเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ ร้านจึงช่วยให้ซื้อทองรูปพรรณได้คุ้มค่ามากขึ้น
๐ ช่วงเวลา
ค่ากำเหน็จอาจผันแปรไปตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่าง ๆ โดยในช่วงที่เป็นที่ต้องการ เช่น เทศกาลแต่งงาน ค่ากำเหน็จอาจพุ่งสูงขึ้น ในทางกลับกัน บางช่วงก็การลดค่ากำเหน็จลงเพื่อดึงดูดลูกค้า
สำหรับนักลงทุนที่อยากประหยัดค่ากำเหน็จ เรามีเทคนิคง่าย ๆ ในการซื้อทองมาแนะนำ ด้านล่างนี้เลย สำหรับนักลงทุนที่อยากประหยัดค่ากำเหน็จ เรามีเทคนิคง่าย ๆ ในการซื้อทองมาแนะนำ ด้านล่างนี้เลย
๐ เปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ ร้าน
ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรสำรวจและเปรียบเทียบราคาจากหลายร้าน เพื่อหาราคาและค่ากำเหน็จที่เหมาะสมที่สุด แม้ว่าการทำเช่นนี้อาจใช้เวลา แต่ในที่สุดแล้วจะช่วยให้คุณประหยัดได้ในระยะยาว อีกทั้งยังอาจพบข้อเสนอพิเศษที่น่าสนใจกว่าอีกด้วย
๐ ซื้อทองรูปพรรณที่มีดีไซน์เรียบง่าย
หากต้องการประหยัดค่ากำเหน็จ ให้เลือกทองรูปพรรณที่มีลวดลายไม่ซับซ้อน เนื่องจากใช้เวลาผลิตน้อยกว่า จึงทำให้ค่ากำเหน็จต่ำลงตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะขายต่อได้ง่ายกว่า
๐ ซื้อทองคำแท่ง
อีกทางเลือกหนึ่งคือการซื้อทองคำแท่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมุ่งเน้นซื้อเพื่อลงทุน ทั้งนี้เพราะทองคำแท่งไม่มีค่ากำเหน็จ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากและเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว
๐ จับจังหวะซื้อในช่วงราคาทองคำตก
ท้ายที่สุด แม้ว่าการคาดเดาราคาทองจะเป็นเรื่องยาก แต่หากคุณติดตามแนวโน้มราคาอย่างสม่ำเสมอและซื้อในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลง ก็จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น ทั้งในส่วนของราคาทองและค่ากำเหน็จ ซึ่งมักคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาทอง
1. สามารถต่อรองค่ากำเหน็จได้หรือไม่ ?
คำตอบ : โดยทั่วไป บางร้านอาจเปิดโอกาสให้ต่อรองค่ากำเหน็จได้ โดยเฉพาะเมื่อซื้อทองในปริมาณมากหรือในช่วงเทศกาลพิเศษ อย่างไรก็ตาม ควรสอบถามนโยบายของแต่ละร้านก่อน เนื่องจากบางร้านอาจมีราคาตายตัว
2. ค่ากำเหน็จมีผลต่อราคาขายคืนทองรูปพรรณหรือไม่ ?
คำตอบ : ในการขายคืนทองคำ ร้านค้าจะไม่นำค่ากำเหน็จมาคำนวณ แต่จะพิจารณาจากน้ำหนักและราคาทองในขณะนั้นเป็นหลัก ทั้งนี้ ดีไซน์และสภาพของทองอาจส่งผลต่อราคาขายคืนเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละร้าน
3. ค่าบล็อกทองแท่งแตกต่างจากค่ากำเหน็จทองรูปพรรณอย่างไร ?
คำตอบ : ค่าบล็อกทองแท่งคือค่าใช้จ่ายในการผลิตและบรรจุทองคำแท่ง ซึ่งจะแตกต่างจากค่ากำเหน็จทองรูปพรรณที่รวมถึงค่าออกแบบและตกแต่ง โดยทั่วไป ทองคำแท่งจะไม่มีค่ากำเหน็จ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการออกแบบและตกแต่งเพิ่มเติมเหมือนทองรูปพรรณ
การเข้าใจเรื่องค่ากำเหน็จคือกุญแจสำคัญในการซื้อทองอย่างชาญฉลาด แต่หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่ประหยัดกว่า การซื้อทองหลุดจำนำก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
ที่ Easy Money Shop เราคือสถาบันสินเชื่อทางเลือกที่ให้บริการรับจำนำทองและเป็นแหล่งขายฝากของมีค่าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม เพชร ทอง และอื่น ๆ สินค้าทุกชิ้นได้รับการรับรองคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ และผ่านการเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและเป็นระบบ
ติดต่อสอบถามเพื่อซื้อสินค้าหลุดโรงจำนำจากเราได้ที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลโคราช และสาขาเซ็นทรัลพระราม 3 และโรงรับจำนำ Easy Money ทุกสาขา สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-113-1123 วันจันทร์ - อาทิตย์ 8.00 - 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ข้อมูลอ้างอิง
1. ค่ากำเหน็จทอง คืออะไร? รู้จัก "ค่ากำเหน็จ" ก่อนซื้อหรือเปลี่ยนทองวันนี้. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1968066.