เชื่อว่า "การเปิดร้านกาแฟ" คือธุรกิจในฝันของใครหลายคน แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือหนึ่งในธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด เปรียบเสมือน Red Ocean ที่หนทางสู่ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น การวางแผนเรื่องเงินทุนเพื่อไม่ให้เกิดการบานปลายจนเกินการควบคุม เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น บทความนี้จะมาช่วยคำนวณเงินทุนในการเปิดร้านกาแฟให้แบบเสร็จสรรพ เพื่อช่วยคุณเริ่มต้นเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการได้อย่างมั่นใจ แบบไม่ต้องกลัวขาดทุน
การเลือกทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านกาแฟ ลองมาดูตัวอย่างค่าเช่าในแต่ละพื้นที่กัน
๐ ค่าเช่าย่านใจกลางเมือง : 30,000 – 100,000 บาทต่อเดือน สำหรับพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
๐ ค่าเช่าย่านชานเมือง : 10,000 – 30,000 บาทต่อเดือน สำหรับพื้นที่นอกตัวเมือง เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
นอกจากค่าเช่าแล้ว การตกแต่งร้านก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง โดยงบประมาณในส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามขนาดและสไตล์ของร้าน
๐ ค่าตกแต่งแบบเรียบง่าย : 100,000 – 500,000 บาท สำหรับร้านขนาดเล็กถึงกลาง ที่ต้องการการตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
๐ ค่าตกแต่งแบบหรูหรา : 1,000,000 บาทขึ้นไป สำหรับร้านที่ออกแบบอย่างซับซ้อน และใช้วัสดุคุณภาพสูง หรือมีขนาดใหญ่
ทั้งนี้ การเลือกทำเลและรูปแบบการตกแต่งควรคำนึงถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและคอนเซปต์ของร้านเป็นสำคัญ เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
การเลือกอุปกรณ์ที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อรสชาติของกาแฟที่ลูกค้าจะได้ลิ้มลอง สำหรับอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเปิดร้านกาแฟมีดังนี้
๐ เครื่องชงกาแฟเชิงพาณิชย์ : 50,000 – 300,000 บาท ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพและความสามารถของเครื่อง เช่น จำนวนหัวชง ระบบควบคุมอุณหภูมิ และฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ
๐ เครื่องบดกาแฟ : 10,000 – 50,000 บาท โดยเครื่องบดที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้การบดเมล็ดกาแฟสม่ำเสมอ ส่งผลต่อรสชาติที่กลมกล่อม
๐ อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
๐ เครื่องกรองน้ำ : 5,000 - 20,000 บาท
๐ เครื่องตีฟองนม : 3,000 - 15,000 บาท
๐ อุปกรณ์ทำเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น เครื่องปั่น หรือเครื่องทำน้ำแข็ง : ราคาอาจแตกต่างกันไปตามประเภทและคุณภาพ
เมื่อรวมงบประมาณสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดแล้ว อาจอยู่ในช่วง 100,000 – 500,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความหลากหลายของอุปกรณ์ที่คุณเลือกใช้
การเลือกวัตถุดิบคุณภาพสูงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติและคุณภาพของเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมล็ดกาแฟซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก สำหรับวัตถุดิบที่จำเป็นในการเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ มีดังนี้
๐ เมล็ดกาแฟคุณภาพสูง : ราคา 500 - 1,500 บาทต่อกิโลกรัม เป็นวัตถุดิบหลักที่กำหนดรสชาติและคุณภาพของกาแฟ อย่างไรก็ดี กาแฟเกรดพิเศษหรือ Single Origin อาจมีราคาสูงกว่านี้
๐ นมและผลิตภัณฑ์จากนม : ราคาแตกต่างกันตามชนิดและแบรนด์ เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับเมนูกาแฟผสมนม เช่น ลาเต้และคาปูชิโน
๐ ไซรัปและวัตถุดิบปรุงแต่งรสชาติ : ราคาแตกต่างกันตามชนิดและแบรนด์ ช่วยสร้างความหลากหลายและเอกลักษณ์ให้แก่เมนู เช่น ไซรัปรสช็อกโกแลต วานิลลา หรือคาราเมล
๐ โกโก้และช็อกโกแลต : ราคาแตกต่างกันตามคุณภาพและแบรนด์ ช่วยเพิ่มตัวเลือกสำหรับเมนูเครื่องดื่มช็อกโกแลตและโกโก้ ให้แก่ลูกค้าที่ชื่นชอบรสชาติเหล่านี้
๐ วัตถุดิบเสริมอื่น ๆ : ราคาแตกต่างกันตามชนิดและปริมาณ เช่น ชา น้ำผึ้ง น้ำตาล และเครื่องเทศต่าง ๆ ช่วยเพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ไม่ดื่มกาแฟ
ในการเปิดร้านครั้งแรก ควรเตรียมงบประมาณสำหรับวัตถุดิบประมาณ 10,000 - 50,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านและความหลากหลายของเมนูที่คุณวางแผนจะนำเสนอ
นอกเหนือจากเงินทุนด้านสถานที่และอุปกรณ์แล้ว ในการเปิดร้านกาแฟยังจำเป็นต้องเตรียมค่าใช้จ่ายทางกฎหมายสำหรับเรื่องเหล่านี้ด้วย
๐ ค่าจดทะเบียนธุรกิจ : ราคา 5,000 - 10,000 บาท เพื่อรับรองสถานะทางกฎหมายของร้านและเปิดโอกาสในการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ
๐ ค่าใบอนุญาตขายอาหารและเครื่องดื่ม : ราคา 1,000 - 3,000 บาท เพื่อรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้บริโภค
๐ ค่าใบอนุญาตอื่น ๆ : ราคา 2,000 - 5,000 บาท เพื่อครอบคลุมการดำเนินธุรกิจทุกด้าน เช่น ใบอนุญาตเปิดร้านอาหาร ใบอนุญาตติดตั้งป้ายโฆษณา
เพื่อให้ร้านกาแฟของคุณโดดเด่นและเป็นที่จดจำ คุณจำเป็นต้องลงทุนประชาสัมพันธ์สำหรับการสร้างแบรนด์ ซึ่งอาจต้องรวมค่าใช้จ่ายเหล่านี้เอาไว้ด้วย
๐ ค่าสร้างอัตลักษณ์แบรนด์ : ราคา 10,000 – 30,000 บาท สำหรับการออกแบบโลโก้ เลือกโทนสี และวางกลยุทธ์ Branding เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและจดจำได้ง่าย
๐ ค่าการตลาดออนไลน์ : ราคา 5,000 – 20,000 บาทต่อเดือน สำหรับการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย การทำ Content Marketing และการร่วมงานกับ Influencer เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์และดึงดูดลูกค้าใหม่
ค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเป็นส่วนสำคัญที่คุณต้องวางแผนอย่างรอบคอบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
๐ เงินเดือนบาริสตา : ราคา 12,000 – 20,000 บาทต่อเดือนในกรุงเทพฯ
๐ ค่าจ้างพนักงานเสริม : ราคาขึ้นอยู่กับชั่วโมงการทำงานและหน้าที่
ร้านกาแฟปัจจุบันมักจะใช้ระบบจัดการร้านแบบดิจิทัล ซึ่งช่วยในการบริหารจัดการร้าน ลดความผิดพลาด และเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้ โดยทั่วไปจะมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
๐ ค่าระบบ POS (Point of Sale) : ราคา 10,000 – 50,000 บาท สำหรับระบบบันทึกการขาย จัดการสต๊อกสินค้า และรับชำระเงิน
๐ ค่าซอฟต์แวร์เสริม : ราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทและความต้องการ รวมถึงระบบจัดการหลังบ้าน โปรแกรมบัญชี หรือแอปพลิเคชันจัดการลูกค้าสัมพันธ์
จากการคำนวณทั้งหมด การลงทุนร้านกาแฟในยุคปัจจุบันนั้นต้องใช้งบประมาณที่แตกต่างกันไปตามขนาดและรูปแบบของร้าน รวมถึงทำเลที่ตั้ง โดยแบ่งได้เป็นสองกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
๐ สำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจหรือมีงบประมาณจำกัด อาจต้องใช้เงินทุนเปิดร้านกาแฟประมาณ 300,000 ถึง 1,000,000 บาท ทั้งนี้ ราคาจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดพื้นที่ การตกแต่งร้าน และคุณภาพของอุปกรณ์ที่เลือกใช้
๐ สำหรับร้านกาแฟขนาดใหญ่
ร้านที่ต้องการความหรูหราและใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง อาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 1 ถึง 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากคุณบริหารจัดการและควบคุมค่าใช้จ่ายบางส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจลดงบประมาณลงได้บ้าง
อย่างไรก็ดี ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้นเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง ค่าใช้จ่ายอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน จึงควรทำ Market Research และวางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อให้การลงทุนของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด
สภาพคล่องทางการเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตไปข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจร้านกาแฟที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อจัดซื้อวัตถุดิบและพัฒนาร้านอยู่เสมอ หากคุณกำลังมองหาเงินด่วนเพื่อเสริมสภาพคล่องในการเริ่มต้นธุรกิจ โรงรับจำนำ Easy Money พร้อมให้บริการ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมประเมินราคาทรัพย์สินทุกประเภทอย่างยุติธรรมและโปร่งใส เรามุ่งมั่นที่จะให้ราคาสูงที่สุดเท่าที่สภาพทรัพย์จะเอื้ออำนวย เพื่อให้คุณได้รับวงเงินที่เหมาะสมกับความต้องการ
นอกจากนี้ เรายังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อให้บริการที่รวดเร็ว แม่นยำ และตอบโจทย์ความต้องการด้านสภาพคล่องของธุรกิจคุณได้อย่างทันท่วงที หากสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่ Call Center 02-113-1123 วันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 8.00 - 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ข้อมูลอ้างอิง
1. เปิดร้านกาแฟ ไม่มีประสบการณ์ ต้องเริ่มจากอะไร สรุปทุกข้อควรรู้!. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567. จาก https://www.ktc.co.th/article/knowledge/business/how-to-start-coffee-cafe.
2. Brewing Up: How Much Does it Cost to Start a Coffee Shop?. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567. จาก https://www.lightspeedhq.com/blog/how-much-does-it-cost-to-open-a-coffee-shop/.